บทความนี้ได้มีเพื่อนผมคนนึงครับบอกชื่อเลยละกัน kt2008(user ในมาเก็ตติว่านะครับ) บอกให้ผมช่วยหา Indicators ที่ใช้ควบคู่กับ Bollinger Band หน่อย ซึ่งตอนนั้นผมก็ตอบเพื่อนคนนี้อย่างรวดเร็วไปว่า "เออ ใช้กับ Stochastic Slow ว่ะ"ซึ่งผมยังไม่ได้บอกมันเลยครับ ว่าผมไม่ได้บอกทั้งหมดว่าใช้กับ RSI ได้ด้วย แต่ว่าใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ Stochastic บอกสัญญาณที่เร็วกว่า Relativa Strength Index (Rsi) Oscillators ที่บอกสัญญาณได้เร็วอันดับแรกก็คือ Commodity Channel Index (CCI) และรองลงมาก็คือ Stochatic สองตัวนี้จะเหมาะสมกับกราฟพักตัว หรือที่เรียกว่ากราฟไซเวย์(Sideway) นั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่าได้ใช้อินดิเคเตอร์สองตัวนี้ในการเล่นกราฟที่มีแนวโน้มไปทางเดียวเด็ดขาด เพราะคุณอาจจะถูกหลอกว่ามัน Over Bought (OB= ภาวะตลาดมีแรงซื้อเยอะเกิน )ในช่วงขาขึ้น และภาวะตลาดที่มีแรงขายเยอะเกิน (Over Sold) ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนตกใจ อย่าพยายามคิดว่า มันสุดแล้วหน่า Sell ดีกว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ เพราะฉะนั้นคุณควรจะศึกษา Elliott wave หรือหาจัดกลับตัวจากการใช้ Fibonacci กันด้วยครับ ทั้งสองสิ่งนี้มันจะทำให้เรารู้ว่ากราฟจะพักตัวตรงไหน จะกลับตัวตรงไหน สามารถพยากรณ์ช่วยเราได้
Credit:www.9professionaltrader.blogspot.com การใช้ Bollinger band ควบคู่ไปกับ Relative Strength Index และ Stochastic Slow ในตลาดฟอเร็กซ์ | Forex Trading Blog สอนเทรด Forex - แหล่งศึกษาข้อมูล Forex และสอน Trade Forex แบบมืออาชีพ
Under Creative Commons License: Attribution
สำหรับบทความนี้นะครับ จะเป็นเรื่อง การใช้ Bollinger Band ผมจะอธิบายตามหลักที่ผมเข้าใจนะครับ
Bollinger Band คือเส้นที่อยู่เหนือราคา และอยู่ตำกว่าราคา สองเส้นนี้จะเป็นกรอบที่ห้อมล้อมราคาไว้ และสามารถบอกเราให้รู้ว่า ราคาควรจะอยู่ในช่วงไหน ซึ่งนี้แหระครับ คือความมหัศจรรย์ของมัน หลายคนอาจจะมีมองข้ามสิ่งที่ง่ายๆไป สิ่งที่สามารถทำกำไรได้ โดยที่ไม่รู้ว่า พื้นฐานนี่แหระครับ เป็นสิ่งที่ดี (Basis(c) is the best ) โบลินเจอร์แบนจะประกอบด้วยทั้งหมด 3 เส้น ในกรณีที่อยู๋ในกราฟ MT4 นะครับ แต่ถ้าอยู่ใน Marketiva จะมีสองเส้น (ให้เพิ่มเส้น MA 20 เข้าไปเพื่อให้มีสามเส้นเหมือนกับ mt4 )
Bollinger band ประกอบด้วย 1. Upper Line เส้นบนสุด 2.Middle Band เส้นกลาง 3. Lower Line เส้นล่างสุด เส้นกลาง Middle Line ผมจะเรียกมันว่า เส้น Pivot จะใช้เป็นจุดกึ่งกลางของช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ โดยกฎทั่วไปของ Bollinger band ผมจะพิจารณาเป็นสองช่วงนะครับ ช่วงแรกคือกราฟวิ่งทางเดียว หรือที่เรียกว่า กราฟมีแนวโน้มที่ชัดเจน และช่วงที่สองคือ ช่วงกราฟวิ่งขึ้นวิ่งลงเป็น Flat(ขนานในแนวระนาบ) หรือที่เรียกว่ากราฟ Sideway (เหมาะมากกับการใช้โบลินเจอร์แบน)
เรามาดูแบบแรกกันก่อนนะครับ
สภาวะขาขึ้น Bullish
ช่วงที่มีแนวโน้มชัดเจน ถ้าเป็นขาขึ้น (Bullish) กราฟจะเกาะเส้นบน (Upper Line ) ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการพักตัว
-เมื่อกราฟพักตัวแล้วราคามีการปรับตัวลงมา แต่ราคาไม่สามารถทะลุเส้น Middle Band ไปได้ นั่นหมายความว่า ราคายังจะคงขึ้นต่อไปจนกว่าจะไปชนเส้นบน Upper line อีกครั้ง
-แล้วจุดกลับตัวดูยังไง
จุดกลับตัวก็ดูจากราคาปิดของแท่งเทียน ถ้าราคาปิดของแท่งเทียนปิดต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของแท่งมันเอง นั่นหมายความว่า แนวโน้มของกราฟกำลังจะกลับตัวลงมาที่เส้น Middle Line อีกครั้ง
-แล้วเราจะใช้กับ Time frame ไหน จึงจะเหมาะสมที่สุด
Time Frame หรือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าเล่นสั้น(Short term Trading) หรือเส้นยาว(Long Term Trading) ถ้าเล่นสั้นๆ ก็ใช้ Tf 5 15 นาที แต่ถ้าเล่นยาวๆ ก็ควรจะใช้ มากกว่า 1 H แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมใช้กับกราฟ 30 นาที ถือว่าเหมาะสมกับผมที่สุด
ต่อไปเรามาดูสภาวะที่เป็นขาลง Bearish กันบ้างครับ
สภาวะขาลงก็ตรงกันข้ามกับขาขึ้น แต่สภาวะขาลงจะเล่นสนุกกว่าขาขึ้น เพราะลงมากกว่าขึ้น และใช้เวลาน้อยกว่า เทรดเดอร์บางคนรอเล่นเฉพาะขาลง เพราะมันได้ก
ต่อไปเรามาดูสภาวะที่เป็นขาลง Bearish กันบ้างครับ
สภาวะขาลงก็ตรงกันข้ามกับขาขึ้น แต่สภาวะขาลงจะเล่นสนุกกว่าขาขึ้น เพราะลงมากกว่าขึ้น และใช้เวลาน้อยกว่า เทรดเดอร์บางคนรอเล่นเฉพาะขาลง เพราะมันได้กำไรเร็ว
-ถ้าราคาเกาะเส้นล่าง Lower line ไปเรื่อย แสดงแนวโน้มของขาลงยังคงไปต่อ และยังไม่จบอย่างง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าแท่งเทียนปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งมันเอง เป็นสัญญาณบอกได้ชัดเจนว่าลงต่อ อย่างแน่นอน
-เมื่อราคามีการพักตัวราคาจะดีดกลับมาที่เส้น Middle Line แต่โดยส่วนมาก ราคามักจะไม่ผ่านเส้นกึ่งกลางนี้
-เมื่อราคาเกิดการพักตัวจะ Side way ไปหาเส้น Middle Line แล้วเมื่อไปชนเส้นนี้ แล้วมีแท่งเทียนขาลงเกิดขึ้น แสดงว่าแนวโน้มยังคงลงต่อไปและไปหาเส้นล่าง(Lower Line ) เสมอ
-แล้วจุดกลับตัวล่ะ ดูยังไง
จุดกลับตัวก็ดูตรงข้ามกับกราฟขาขึ้น จุดกลับตัวของกราฟขาลง ถ้าราคาทะลุเส้นโบลินเจอร์แบนลงไปแล้ว เด้งกลับขึ้นมาแล้วลักษณะของแท่งเทียนแสดงเป็นลักษณะ โดจิ ค้อน หรือดูราคาปิดก็ได้ ถ้าราคาปิด ปิดสูงกว่ากึงกลางของแท่ง ก็แสดงว่า เริ่มจะกลับตัว
ช่วงที่สอง กราฟวิ่งขึ้นวิ่งลง หรือเรียกกันว่ากราฟไซด์เวย์ นั่นเอง
กราฟไซเวย์ดูง่ายครับ ถ้าใช้ Bollinger Band ลักษณะของโบลินเจอร์จะเป็นช่องขนานไปกับแนวระนาน โดยที่
- เส้นบนจะกลายเป็นแนวต้านทันที นั่นหมายความว่า ถ้าราคาขึ้นไปแล้วไม่ผ่าน มันก็จะวิ่งลงมาหาเส้นล่าง แล้วถ้าไม่ผ่านเส้นล่าง ก็ขึ้นไปหาเส้นบน จะเป็นแบบนี้ตลอด
-แล้วมันจะแบบนี้ตลอดเลยเหรอ
มันจะเป็นแบบนี้เฉพาะช่วงไซย์เวย์หนักๆเท่านั้น โดยส่วนมาก จะไม่เกิน 3 Top 3 Bottom ถ้าเกินคือกราฟเริ่มสะสมแรงเพื่อไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
- แล้วมีจุดสังเกตมั้ยว่ากราฟกำลังสะสมกำลังจะพุ่ง
ดูง่ายๆเลยครับ ถ้าโบลินเจอร์แบนลู่เข้าหากัน หมายความว่า เป็นลักษณะคอคอด หรือขอขวดนัั่นแหระ ให้้เตรียมพร้อมไว้เลย ว่ากราฟจะกำลังจะไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่ง
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผมให้การบ้านกับคนที่อ่านทุกคน จินตนาการตามที่ได้อ่าน แล้วลองดูกราฟ ตอนนี้ผมยังไม่ทำรูปให้ดู แล้วมาดูกันว่า รูปตามจินตนาการของคุณกับของ 9prof จะเหมือนกันมั้ยครับ ฝากไว้เป็นการบ้านนะครับ
03:22
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น